3 ความอันตรายที่เกิดจากการลดน้ำหนัก

การลดน้ำหนัก หากลดไปในทางที่ถูกต้อง หรือลดอย่างเหมาะสมก็ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย

ความอันตรายที่เกิดจากการลดน้ำหนัก เพราะการที่เราลดน้ำหนักเพื่อที่จะได้มีรูปร่างที่ดี สวย พร้อมใส่เสื้อผ้าได้สวย ๆ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราควรทำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหักโหมกับการลดน้ำหนักจนเกินไป แน่นอนว่าก็ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างแน่นอน เพราะการลดน้ำหนักหากลดไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับผลกระทบที่ตามมาได้

ซึ่งปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่า สาว ๆ ส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจในการดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดน้ำหนัก เพราะแน่นอนว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่อยากที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดี มีรูปร่างที่สวย มีหุ่นที่เป๊ะ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากเริ่มต้อลดน้ำหนัก อยากให้ทุกคนนั้นทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลดน้ำหนักให้มาก ๆ ว่าการลดน้ำหนักในรูปแบบไหนเหมาะกับเรา และ มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะการลดน้ำหนักถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจ แต่ก็ต้องรู้ว่าหากเราหักโหมเกินไป ก็อาจเกิดความอันตรายขึ้นกับร่างกายของเราได้ ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับการลดน้ำหนัก จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

 

การลดน้ำหนักทำให้ระบบเผาผลาญเสื่อมลง

เชื่อว่าในช่วงแรก ๆ ไม่ว่าใครก็ต้องหักโหมกับการลดน้ำหนักกันอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าใครก็อยากให้น้ำหนักตนเองลดลงอย่างรวดเร็วทันใจ แต่รู้หรือไม่ว่า ยิ่งเราลดน้ำหนักแบบไม่ถูกวิธีก็จะยิ่งทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายนั้นเสื่อมลงได้เร็ว ยิ่งถ้าผ่านไปสักระยะ ร่างกายของเราก็จะมีระบบการเผาผลาญที่น้อยลง ทำให้ไม่ว่าเราจะออกกำลังกายหนักแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้น้ำหนักของเราลดน้อยลง 

การลดน้ำหนักอาจทำให้เราหน้ามืด

คนส่วนใหญ่ที่ลดน้ำหนัก มักที่จะเลือกวิธีการอดอาหาร เพราะเป็นวิธีที่ช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็ว แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราอดอาหารมาก ๆ จะยิ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลของเรานั้นลดลงอย่างรวดเร็ว จนส่งผลให้ร่างกายนั้นปรับสมดุลในเลือดได้ไม่ทัน และอาจทำให้เรานั้นเกิดอาการหน้ามืด และเป็นลมไปในที่สุด 

การลดน้ำหนักทำให้เราหงุดหงิดได้ง่าย

เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเรานั้นมีปริมาณแป้ง หรือน้ำตาลที่ไม่เพียงพอ ก็จะยิ่งทำให้เรามีอารมณ์ที่รู้สึกหงุดหงิดได้ง่าย หรืออาจทำให้บางคนนั้นอาจเครียดไปเลยก็ได้ เพราะการลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่คนมักที่จะลดน้ำตาล หรืองดการทานแป้งเพื่อให้การลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ทางที่ดี เราไม่ควรงดเลย เราควรที่จะลดปริมาณการทาน เพื่อให้ในร่างกายเรานั้นยังคงมีแป้ง หรือน้ำตาล เพื่อที่จะได้ทำให้ร่างกายไม่ส่งผลเสียนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

ลดน้ำหนักและหุ่นดีแบบสาวๆ ญี่ปุ่นกันนน

ลดน้ำหนักและหุ่นดี เพื่อนๆและสาวๆ รู้หรือไม่ สาวๆ ญี่ปุ่น ที่มีหุ่นดี และเห็นที่ประเทศเค้ามีของอร่อยมากมายแต่ทำไมยังลดน้ำหนักได้ดี และไม่อ้วน เท่าไรเลย เพื่อนๆ และสาวๆ ที่อยากอมหรือรู้ทริคของสาวๆ ญี่ปุ่นเรามาดูกันดีกว่าว่าเค้ากินหรือมีพฤติกรรมกันแบบไหน ไปดูเลยยย

-กินอาหารแต่พอดี ไม่กินอิ่มแบบแน่นๆเกินไป 

เพื่อนๆและสาวๆ รู้หรือเปล่า สาวๆญี่ปุ่นนะ กินแค่พอดีๆ ต่อมื้อเท่านั้นนะ จะไม่กินให้แน่นๆ แบบอิ่มแบบไม่ไหว สาวๆญั่ปุ่นะจ กินแค่พอดี ๆ หากเริ่มรู้สึกอิ่มก็จะหยุดทันทีเพื่อให้ไม่กินมากเกินไปนั้นเงอ 

-เคี้ยวช้า กินช้า ช่วยทำให้อิ่มเร็วขึ้น

เพื่อนๆและสาวๆที่เห็นเค้าอิ่มเร็ว และกินพอดีๆ มันน่าจะยากมากใช่มั้ยยย ใช่ค่ะ แต่ทริคหลักๆของสาวญี่ปุ่นก็คือการที่เค้ากินช้าๆ เคี้ยวช้าๆนั้นเอง เพราะว่าการที่เค้าเคี้ยวช้า กินช้า นั้นจะช่วยทำให้ร่างกายเราอิ่มเร็วขึ้นละ

-กินอาหารเซ็ท เบนโตะ 

สาวๆ ญี่ปุ่นชอบกินเซ็ทเบนโตะกันเพราะว่าอาหารที่เค้าเตรียมในเซ็ทเบะโตะ ส่วนใหญ่จะใส่มาอย่างพอดีๆ ทุกๆอย่าง มีทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน พร้อมทั้งสลัดผักและผลไม้ ในตัว ซึ่งจะทำให้สาวๆ ได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ แบบเซ็ทเดียวจบจริงๆ สาวๆญี่ปุ่นจริงชอบเลือกเซ็ทเบนโตะกิน อย่างเซ็ท ซาซิมิ เบนโตะ

-ดื่มชาเขียวทั้งวัน

เพื่อนๆและสาวๆ เชื่อหรือไม่ว่าการที่เราดื่มชาเขียวนั้นช่วยเรื่องการกระตุ้นระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดีเลยละ นั้นละ เราถึงเห็นว่าคนที่ประเทศญี่ปุ่นเค้าดื่มชาเขียวกันเยอะมากๆ และสาวๆญี่ปุ่นเองก็ดื่มชาเขียวทั้งวันเลยจริงๆ และนั้นละเค้าถึงเผาผลายไขมันได้ดีนั้นเอง 

-เดินทั้งวัน เดินให้เยอะๆเข้าไว้

เพื่อนๆและสาวๆ เคยแปลกใจไหมว่า ทำไมสาวๆญี่ปุ่นนั้นเดินเยอะมากๆๆๆนั้นเป็นว่าสาวๆญี่ปุ่นนั้น เน้นการเดินให้เยอะๆ ระหว่างวัน    เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ    เพื่อเน้นการเผาผลาญไขมัน เพราะว่าบางคนทำงานหนักและไม่มีเวลา เลยเน้นการเคลื่อนไหว ด้วยการเดินให้เยอะๆ ในแต่ละวันเพื่อช่วยเผาผลาญไขมันหรือลดน้ำหนักนั้นเอง 

-แช่น้ำพักผ่อนและนอนให้เยอะ

เพื่อนๆและสาวๆ ชอบแช่น้ำเพื่อการผ่อนคลาย และพักผ่อนหลังจากเดินเยอะๆ หรือทำงานมาทั้งวันแล้วนั้นเอง นอกจากนี้สาวๆ ญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญในการนอนอีกด้วย ทางสาวๆญี่ปุ่นจะให้ความำคัญในการนอนเยอะๆและหลับให้สนิท เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ เพื่อนๆและสาวๆ เห็นแล้วใช่มั้ย ทริคง่ายๆ ของการลดน้ำหนักของสาวญี่ปุ่นนั้นไม่ยากเลย เพื่อนๆและสาวๆ ลองเอาปรับใช้ดูได้นะ ไม่ยากเลย

ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนที่ดีต้องทำอย่างไร

ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนที่ดี การที่เราจะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนที่ดีนั้นไม่ได้ยากเกินไปแน่นอน เพราะว่ายิ่งยุคนี้ สามารถลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้ง่ายๆเลยละ เพราะว่าปัจจุบันมีทั้งแอฟ ทั้งข้อมูลในยูทูปก็มีข้อมูลดีๆแนะนำเราเยอะแยะเลย

-โหลดแอฟตัวช่วยคำนวนแคลอรี่ และบันทึการกิน

เพื่อนๆและสาๆว ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนที่ดี ต้องมีแอฟตัวช่วยที่จะช่วยเรื่องการคำนวณแคลอรี่ว่าร่างกายเราควรกินเท่าไรดี กินอะไรได้บ้าง นอกจากแอฟพวกนี้จะช่วยเรื่องคำนวณแคลอรี่ที่เราต้องกินต่อวันแล้ว ยังช่วยเรื่องการการกินด้วยการบันทึกการกินเราไปในตัว

-การวัดสัดส่วนและชั่งน้ำหนัก

เพื่อนๆและสาๆที่อยากผอม ต้องวัดสัดส่วน อย่างต้นแขน ต้นขา อก สะโพก เอว ทุกๆอย่างต่างๆ เพื่อดูผลที่เปลี่ยนแปลงออกไป และหากต้องการจะชั่งน้ำหนักเพื่อวัดมวลกล้ามเนื้อและมวลไขมันได้ด้วยนะ เราควรจะเลือกทำทั้งสองอย่างทั้งวัดสัดส่วนและการชั่งน้ำหนักเพื่อให้เห็นว่าก่อนหรือหลังต่างกันไปขนาดไหน

-การกินอาหารคลีนหรือทำกินเองยิ่งดี

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนีกที่ดีต้องใส่ใจเรื่องการกิน ไม่ว่าจะเป็นอาหารคลีนตามร้านที่มีจำหน่ายก็ได้ ถ้ายิ่งดี ต้องหันมาทำเองเลย    เครื่องช่วยฟัง     ซึ่งการทำอาหารคลีนไม่ได้ยากเลย เพื่อนๆและสาวๆ สามารถลองทำสามารถเรียนรู้จากยูทูปได้เลย เพราะว่ามันทำได้ง่ายๆไม่ยากและจะทำให้เพื่อนๆหันมาสนุกกับการทำอาหารกินเองได้ด้วยนะ

-ไม่กินเครื่องดื่มหวานๆ อาหารมันๆ ทอดๆ 

เพื่อนๆและสาวๆ  ที่อยากจะลดได้ไว ต้องระวังเรื่องการกินมากๆ โดยไม่กินอาหารที่ผ่านการทอดต่างๆ หรืออาหารมันๆ ต่างๆ เพราะว่ามันจะสะสมไขมันไม่ดีให้กับร่างกายได้ง่ายมากๆ และไม่ควรกินเครื่องดื่มหวานๆเพราะแคลอรี่สูงมากๆ หากต้องการลดเลิกกินด่วนๆ

-ดื่มน้ำเปล่า ชาเขียว กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาลช่วยได้

การที่เราจะลดน้ำหนักให้ดีต้องดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ด้วยนะเพราะว่าการดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น อิ่มเร็ว ถ้ากินก่อนมื้ออาหารนะ และกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดีด้วย หรือหากใครชอบดื่มชา กาแฟ สามารถเลือกกินเป็นชาเขียวไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นม หรือ กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาลได้นะ เพราะว่าจะมันจะคลายความหิวระหว่างวันได้ดี และยังช่วยเรื่องการกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีด้วย เพื่อนๆและสาวๆ เห็นแล้วใช่ไหมละ ว่าการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนยุคนี้มันง่ายขึ้นเยอะมีแอฟหรือข้อมูลดีๆ ค่อนให้ช่วยเยอะเลย

แนะนำวิธีการลดน้ำหนักหรือลดไขมัน ด้วยตัวเราเอง

ลดไขมัน ด้วยตัวเราเอง ลดไขมัน ด้วยตัวเราเองทุกคนนน ใครที่คิดว่าการลดน้ำนหนักหรือลดไขมันนั้นยากก มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอกนะ เพื่อนๆ และสาวๆ สามารถลดน้ำหนักหรือลดไขมัน ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ เลย วันนี้เรามีคำแนะนำที่จะช่วยทำให้เพื่อนๆและสาวๆ ลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้ง่ายขึ้นละ 

+ตั้งใจ วางเป้าหมาย ให้ชัดเจน

เพื่อนๆและสาวๆ ต้องเริ่มจากการตั้งใจ และวางเป้าหมาย ให้ชัดเจน เหมือนมีหุ่นในฝันว่าเราอยากได้แบบไหน อยากจะทำหุ่นให้เหมือนกับหุ่นไอดอล หรือ ตั้งใจและมีเป้าหมายหุ่นที่ดีในแบบของตัวเองนั้นเอง 

+เริ่มและลงมือทำได้เลย 

เพื่อนๆ และสาวๆ เริ่มลงมือได้เลย โดยเริ่มจากการวัดสัดส่วน ต่างๆ ของร่างกาย ต้นแขน ต้นขา เอว สะโพก น้ำหนัก ต่างๆ จดไว้ได้เลยว่าเราต้นจากตรงไหน และเริ่มลงมือกันได้เลย

+วางแผนการกินในแต่ละวัน

เพื่อนๆและสาวๆ เริ่มต้นการวางแผนการกินได้เลย เพราะว่าการกินอาหารนั้นจะช่วยทำให้เพื่อนๆ และสาวๆ ไม่หลุดโฟกัสในการลดน้ำหนักหรือลดความไขมันนั้นเอง การวางแผนที่ดีก็ต้องเลือกกินอาหารที่ดีด้วยนะ 

+เลือกการกินอาหารที่ดีมีประโยชน์

การที่เพื่อนๆและสาวๆ จะลดน้ำหนักหรือลดไขมันนั้น ต้องโฟกัส ด้วยการเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ อย่าง คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จำพวกข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต เป็นต้น โปรตีนดี อย่าง อกไก่ ไข่ต้ม เนื้อปลา เป็นต้น ไขมันดี อย่าง อะโวคาโด และถั่วอัลมอนด์ และอย่าลืมกินผักและผลไม้ด้วยนะ 

+ ดื่มน้ำให้มากขึ้น

เพื่อนๆและสาวๆ หันมาดื่มน้ำให้มากๆ สิ เพราะว่าการที่เราดื่มน้ำมากๆ นั้น จะช่วยเร่งการกระตุ้นระบบขับถ่ายของเราและยังช่วยเรื่องระบบเผาผลาญด้วยนะ นอกจากนี้การดื่มน้ำ แก้วก่อนมื้อหลัก จะช่วยทำให้อิ่มท้องได้เร็วขึ้นด้วยนะ 

+เคลื่อนไหวร่างกายมากๆ หรือ ออกกำลังกาย

เพื่อนๆและสาวๆ คงหนีไม่พ้นการเคลื่อนไหวร่างกายให้มากๆ เพื่อเร่งการเผาผลาญไขมันละ เพราะฉะนั้นพยายามเคลื่อนไหวร่างกายให้มากๆ นะ แต่หากจะให้ได้ผลแบบเร็วขึ้นไปอีก ก็คือ การออกกำลังกายนั้นเอง 

+พักผ่อนให้มาก 

เพื่อนๆและสาวๆ ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะ เพราะว่าการที่เราพักผ่อนเพียงพอจะทำให้เรานั้นสดชื้นและระบบต่างๆของร่างกายก็จะทำงานได้เป็นอย่างดี และยังช่วยไม่หิวจุกจิกด้วยนะ

+อย่ากดดันตัวเองและให้กำลังใจตัวเอง 

เพื่อนๆ และสาวๆ คนไหนที่ลดน้ำหนักและเครียดบ่อยๆ นั้นไม่ดีเลยเพราะว่ามันทำให้ร่างกายเราตึงเครียดและไม่ยอมเผาผลาญไขมันออกไปอีกด้วยนะ ดังนั้นอย่ากดดันเลย ให้กำลังใจตัวเองด้วยนะ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

นอนหลับยากแก้ง่ายๆไม่ต้องใช้ยา

นอนหลับยากแก้ง่ายๆโดยไม่ต้องใช้ยาเน้นไม่ต้องใช้ยาใช้ยามันง่ายอยู่แล้วไม่ง่วงใช่ไหมกินยาหลับแต่  นอนหลับยากแก้ง่ายๆไม่ต้องใช้ยา     ถามว่าท่านจะต้องกินไปตลอดชีวิตไหมเพราการกินยาทำให้ท่านติดยานอนหลับแล้วเมื่อไหร่ที่ไม่ได้ใช้งานงอกเลยลืมเอายาไปไม่ต้องนอนกันพอดี

เพราะฉะนั้นการนอนได้ด้วยตัวเองคือสุดยอดพร้อมแล้ววันนี้เรามาดูกันว่าวิธีการแก้ไขการนอนหลับยากโยที่ไม่ต้องใช้ยามีอะไรบ้าง

คราวนี้เรามาเจาะลึกประเด็นการนอนหลับยากที่สาเหตุกันก่อนนิดนึงคือถ้าเรารู้สาเหตุเราก็ไปแก้ไขปลายเหตุได้ง่ายถูกไหมถ้าเราไม่รู้สาเหตุเลยเราไปแก้มันก็มั่วซั่วไหมเพราฉะนั้นต้องแก้ที่ต้องเหตุแล้วชีวิตเราจะดี

สาเหตุที่จะทำให้คนในปัจจุบันนอนไม่หลับข้อแรกเลยเราคิดว่าเราทุกคนรู้กันอยู่คือ ความเครียด นั่นเองคือความเครียดมันเป็นอะไรที่มันโรคจิตมากๆเลยเราว่ามันเซงมากๆเลยทุกคนอ่ะเหมือนเวลาเรามีเรื่องเครียดใช่ไหมเราก็มักจะคิดอยู่เรื่องเดิมแล้วมันก็ซ้ำๆวนอยู่เรื่องเดิมเหมือนอเอามีดมาแทงตัวเองซ้ำๆมันก็ยิ่งทำให้เครียดๆ

ซึ่งก็เหมือนบางทีเราคิดไปเยอะๆมันเหมือนมีคนเอาของมารัดหัวภาวะแบบนี้เขาเรียกว่าTension Headacheก็คือภาวะการปวดหัวแบบรอบขมับเลยจากความเครียดนั่นเองเพราะฉะนั้นถ้าเราแก้ไขภาวะหรือสาเหตุนี้ได้ท่านอาจจะนอนหลับดีนอนหลับง่ายขึ้นแล้วก็ได้แต่ความเครียดในปัจจุบันมันแก้ยากเหลือเกินเนอะก็ต้องฝึกฝนพยายามกันไป

ข้อสอง อายุที่มากขึ้น  อายุที่มากขึ้นจะทำให้ท่านนอนหลับยากอันนี้คลาสสิคไปแล้ว    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ   มันเกี่ยวกับทั้งฮอร์โมนเกี่ยวกับทั้งภาวะร่างกายหลายๆอย่าง เพราะฉะนั้นแล้วอายุที่มากขึ้นเป็นปัญหาไหม บอกเป็นแต่ถ้าเกิดท่านปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง

ซึ่งเราจะกล่าวต่อไปในตอนหลังท่านก็จะนอนหลับได้ดีขึ้นอย่างน้อยนอนได้วันละ6-7ชั่วโมงอย่าไปต่ำกว่า6โมงเราว่าโอเคแล้วสำหรับผู้สูงอายุแล้วผู้สูงอายุมักจะนอนเร็วตื่นเช้าก็ไม่ผิดบอกเลยบางคนบอกนอนเร็วแล้วตื่นตี3-4ไม่ได้ผิดอะไรถ้าวันหนึ่งนอนได้ครบไม่มีปัญหา

โดยขอให้ช่วงที่นอนของท่านเป็นเวลา4ทุ่มถึงตี2แล้วก็บวกไปอีก2ชั่วโมงหรือก่อนนั้น2ชั่วโมงเช่นท่านจะนอน2ทุ่มถึงตี4ก็ไม่มีใครว่าอะไรหรือท่านจะนอน4ทุ่มถึง6โมงเช้าก็โอเคแต่ช่วงเวลาทองนี่คือ4ทุ่มถึงตี2ช่วงนี้โกรทฮอร์โมนหลั่งหลั่งทุกช่วงอายุถ้าท่านได้นอนช่วงนี้นะ

อาหารช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ 

อาหารช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้  ความฝันของใครหลาย ๆ คนนั้นคงอยากที่จะมีเกิดมาแล้วมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ กันอย่างแน่นอน เพราะเนื่องจากว่าในโลกของเรานั้นเต็มไปด้วยมลพิษ หรือมลภาวะต่าง ๆ มากมายที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบันนี้เราจะเห็นคนส่วนใหญ่หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น

เนื่องจากว่าจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ร่างกายได้นั่นเอง และปัจจุบันนี้การเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายนั้นก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา หรือแม้แต่การเลือกรับประทานอาหารเองก็สามารถช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แข็งแรงได้

เพราะระบบภูมิคุ้มกันร่างกายเรานั้นมีคำสำคัญเป็นอย่างมากที่เราควรดูแลเป็นอย่างดี เพราะถ้าเราปล่อยให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอก็อาจทำให้ร่างกายของเราเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม

สำหรับใครที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และอยากเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับภูมิคุ้มกันโรค วันนี้เราจะได้มีอาหารดี ๆ ที่สามารถช่วยบำรุงภูมิคุ้มกันร่างกายให้สุขภาพดี และแข็งแรงได้มากยิ่งขึ้น จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย 

รวมเห็ดชนิดต่าง ๆ หลายคนอาจจะมองว่าเห็ดก็เป็นเพียงอาหารธรรมดาชนิดหนึ่งจะสามารถช่วยบำรุงภูมิคุ้มกันเราให้แข็งแรงได้อย่างไร แต่รู้หรือไม่ว่าเห็ดชนิดต่าง ๆ นั้นจะอุดมไปด้วยสารที่สำคัญต่อร่างกายมากมาย เช่น โพลิแซคไรด์ ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีสารเบต้ากลูแคน ที่สามารถช่วยในการต้านการเกิดมะเร็งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้น หากเลือกทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่าจะต้องดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน 

ไขมัน ถึงแม้ว่าจะดูเป็นอาหารประเภทที่สามารถทำให้เราอ้วนได้ แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากไขมันที่ไม่ดีแล้ว ก็ยังมีไขมันดี ที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ซึ่งไขมันดี จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมนอีกด้วย นอกจากนี้การที่เราเลือกทานไขมันดีเป็นประจำนั้นจะยิ่งช่วยให้ภูมิคุ้มกันร่างกายของเรานั้นแข็งแรงมากยิ่งขึ้น 

โปรไบโอติกส์ เรียกได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยสามารถหาได้ตามนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ต เพื่อช่วยในการกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว เพื่อช่วยในการะบำรุงภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ขอบอกเลยว่าหากทานเป็นประจำนอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายแล้วนั้น ยังส่งผลดีต่อภูมิคุ้มกันร่างกายอีกด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่า

ไวน์หนึ่งแก้วหรือสองแก้วพร้อมมื้ออาหาร

ไวน์หนึ่งแก้วหรือสองแก้วพร้อมมื้ออาหาร อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน2ประเภทได้ การวิจัยเบื้องต้นแนะนำว่าการดื่มไวน์หนึ่งแก้วหรือสองแก้วพร้อมมื้ออาหาร แต่ไม่ใช่ในช่วงเวลาอื่น อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ การค้นพบนี้เพิ่มลงในกลุ่มงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถึงการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพแม้ว่าจะทำในปริมาณที่พอเหมาะ

แต่ก็อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพบางประการเช่นกัน งานวิจัยที่ได้รับการพิจารณาเบื้องต้นจนกว่าจะมีการเผยแพร่การศึกษาฉบับเต็มในวารสาร peer-reviewed ถูกนำเสนอเมื่อวันพฤหัสบดีที่การประชุมระบาดวิทยาและการป้องกัน ไลฟ์สไตล์ และสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของ American Heart Association ในเมืองชิคาโก

ผลกระทบของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพได้รับการอธิบายว่าเป็นดาบสองคมเนื่องจากความสามารถในการเจาะลึกในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

เป็นอันตรายหรือเป็นประโยชน์ขึ้นอยู่กับว่าบริโภคอย่างไร ดร. ห่าวหม่าผู้เขียนการศึกษากล่าวใน ข่าวประชาสัมพันธ์ Ma เป็นนักวิเคราะห์ทางชีวสถิติที่ Tulane University Obesity Research Center ในนิวออร์ลีนส์ การศึกษาก่อนหน้านี้มุ่งเน้นไปที่จำนวนคนที่ดื่มและให้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย มีการศึกษาน้อยมากที่เน้นรายละเอียดการดื่มอื่นๆ เช่น ระยะเวลาในการดื่มแอลกอฮอล์ 

แม้ว่าการทดลองทางคลินิกบางอย่างแนะนำว่าการดื่มในระดับปานกลาง  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่     อาจช่วยการเผาผลาญกลูโคสได้ แต่ Ma กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าประโยชน์ของการเผาผลาญกลูโคสจะส่งผลให้เบาหวานชนิดที่ 2 ลดลงหรือไม่ ในการศึกษาของเรา เราพยายามที่จะตรวจสอบว่าความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคแอลกอฮอล์กับความเสี่ยงของ เบาหวานชนิดที่ 2 อาจแตกต่างกันไปตามระยะเวลาของการดื่มแอลกอฮอล์ตามมื้ออาหาร

ในการศึกษาครั้งใหม่นี้ นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ดื่มเพื่อสุขภาพ 312,388 คนจากสหราชอาณาจักร ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 56 ปี หลังจากติดตามผลมาประมาณหนึ่งทศวรรษ ผู้ที่กล่าวว่าดื่มแอลกอฮอล์พร้อมอาหารมีโอกาสเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 น้อยกว่าผู้ที่รายงานว่าดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลารับประทานอาหาร 14%

ประโยชน์ของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างมื้ออาหารนั้นแข็งแกร่งที่สุดสำหรับผู้ที่ดื่มไวน์ อัตราที่ต่ำกว่าของโรคเบาหวานประเภท 2 เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ที่ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ – มากถึง 14 กรัมแก้วไวน์ – ประมาณ 5 ออนซ์ – สำหรับผู้หญิงและไม่เกินสองแก้ว – ไวน์ประมาณ 10 ออนซ์ – สำหรับผู้ชาย

ความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์กับการพัฒนาโรคเบาหวานประเภท 2 ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ดร.โรเบิร์ต เอช. เอคเคล ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด-เดนเวอร์ กล่าวในการแถลงข่าว ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าไม่ใช่แอลกอฮอล์ในมื้ออาหาร แต่เป็นส่วนผสมอื่นๆ ในไวน์ อาจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยในการลดโรคเบาหวานประเภท 2 ที่เริ่มมีอาการใหม่ Eckel อดีตประธาน AHA ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกล่าว การเรียน ในขณะที่จำเป็นต้องมีการกำหนดประเภทของไวน์ สีแดงกับสีขาว

และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของการค้นพบและกลไกของผลประโยชน์เหล่านี้ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าหากคุณบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมมื้ออาหาร ไวน์อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากการศึกษานี้รวมผู้ใหญ่ผิวขาวส่วนใหญ่ที่มีเชื้อสายยุโรป จึงไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าการค้นพบนี้จะเหมือนกันในประชากรอื่นๆ หรือไม่

หนึ่งวันในชีวิตของนักศึกษาแพทย์ในประเทศจีน

นักศึกษาแพทย์ในประเทศจีน หนึ่งวันในชีวิตของนักศึกษาแพทย์ในประเทศจีน ในซีรีส์ของเราที่จะพาคุณเข้าสู่ชีวิตของนักศึกษาแพทย์ทั่วโลกโดยไม่ต้องลุกจากเก้าอี้ BMJ Student ได้พูดคุยกับนักศึกษาแพทย์ในจีน ผู้เขียนเกี่ยวกับการศึกษาทางการแพทย์และผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ เนื่องจากมีประชากรจำนวนมาก

นักเรียนหลายพันคนในจีนจึงลงทะเบียนเรียนแพทย์ทุกปี1 ทว่าเส้นทางสู่การแพทย์ของพวกเขาจะไม่เหมือนเดิมทั้งหมด แต่ละโรงเรียนเปิดสอนหลายหลักสูตรตั้งแต่ห้าปี (ปริญญาตรี) ถึงเจ็ดปี (ปริญญาโท) หรือแปดปี (ปริญญาเอก) นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรีเพื่อรับปริญญาโทหรือปริญญาเอกหลังจบปริญญาตรี เช่นเดียวกับฉัน

นักเรียนส่วนใหญ่จะผ่านการฝึกอบรมห้าปีและได้รับปริญญาตรีก่อนที่จะสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับอาวุโส ปริญญาตรีเกี่ยวข้องกับหลักสูตรทางคลินิกขั้นพื้นฐานสี่ปีตามด้วยการฝึกปฏิบัติในโรงพยาบาลในปีสุดท้าย หลังจากนั้น จำเป็นต้องมีการหมุนเวียนทางคลินิกและตำแหน่งการวิจัยเป็นเวลาหลายปีเพื่อรับปริญญาอาวุโส

ชีวิตในโรงเรียนแพทย์ ในช่วงห้าปีแรกของฉัน เราเรียนหลักสูตรพื้นฐานในห้องเรียนและทำการทดลองในห้องแล็บ บางคนมาพร้อมกับการฝึกภาคปฏิบัติเช่นการผ่าทางกายวิภาค เนื่องจากทรัพยากรจำกัด นักเรียนบางคนต้องเรียนในที่สาธารณะนอกโรงเรียนเมื่อห้องเรียนเต็ม ตัวอย่างอื่นๆ ของทรัพยากรที่มีมากเกินไป ได้แก่ ห้องสมุดขนาดเล็กที่นักเรียนใช้และหอพักที่มีนักเรียนหนาแน่นซึ่งมีนักเรียนแปดถึงสิบคนต่อห้อง เงื่อนไขเหล่านี้เป็นผลมาจากการลงทุนด้านการศึกษาทางการแพทย์ที่จำกัด ทั้งๆ ที่มีนักศึกษาจำนวนมากที่ลงทะเบียนเรียนในแต่ละปี

นอกจากนี้ กลุ่มนักศึกษาจำนวนมากยังหมายถึงระดับการแข่งขันที่สูงมากในหมู่นักศึกษาแพทย์ในจีน โดยมีอัตราการผ่านการสอบเข้าระดับปริญญาเอกและการสอบใบอนุญาตทางการแพทย์ที่ต่ำ ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงต้องเสียสละวันหยุดสุดสัปดาห์บ่อยๆ เพื่อให้ได้คะแนนที่สูงขึ้นและโดดเด่นกว่าเพื่อน ชั่วโมงเรียนทำให้ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ได้ บางครั้งฉันจึงล้อว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันคือโครงกระดูกในห้องสมุด เพราะฉันเจอเขาทุกวัน

การศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี การฝึกอบรมในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ของเราเสร็จสิ้นในช่วงปริญญาโท ตรงกันข้ามกับการเรียนห้าปีก่อนหน้านี้ ตอนนี้เราต้องเลือกวิชาเอกเฉพาะและเลือกว่าจะเรียนในระดับคลินิกหรือระดับวิชาการ แม้ว่าทั้งคู่จะมีวุฒิแพทยศาสตรบัณฑิต แต่หลักสูตรแรกนั้นเกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมมาตรฐานบังคับเป็นเวลาสามปีสำหรับผู้อยู่อาศัย

ซึ่งช่วยให้สามารถรวมเข้ากับงานทางคลินิกได้เร็วขึ้นหลังจากสำเร็จการศึกษา ระดับการศึกษามุ่งเน้นไปที่การออกแบบและการดำเนินการวิจัยควบคู่ไปกับการปฏิบัติทางคลินิก ฉันเลือกเรียนวิชาเอกโลหิตวิทยาในเด็ก เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์และแพทย์

ทุกวันจันทร์และวันอังคาร ตอนนี้ฉันติดตามพี่เลี้ยงเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมทางคลินิก เราใช้เวลาช่วงเช้าในบริการผู้ป่วยนอก ส่วนเวลาที่เหลือจะเก็บไว้ทำงานวอร์ด ที่นี่ ฉันทำการตรวจเพิ่มเติมของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนที่เราจะส่งมอบให้กับแพทย์ประจำบ้าน ตลอดทั้งสัปดาห์ที่เหลือ ฉันจดจ่ออยู่กับการค้นคว้า การสื่อสารกับผู้ป่วย เก็บตัวอย่างเลือด

และทำการทดลองในห้องปฏิบัติการใช้เวลาส่วนใหญ่ของฉัน การมีเวลา 2 วันสำหรับบริการทางคลินิกและ 3 วันสำหรับการวิจัยทำให้ฉันสามารถรักษาสมดุลของความสนใจทั้งสองได้เป็นอย่างดี แม้ว่างานจะมีความต้องการสูง แต่ฉันให้ความสำคัญกับโครงสร้างนี้เพราะฉันเชื่อว่าโครงสร้างนี้ให้การฝึกอบรมที่ครอบคลุมมากขึ้น

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

ขั้นตอนการวิเคราะห์การรับประทานอาหาร

รูปภาพอาหารและคำอธิบายของส่วนประกอบหลักที่ผู้เข้าร่วมจัดเตรียมให้ในภายหลังได้รับการเข้ารหัสโดยผู้ประเมินอิสระและผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว ตามคู่มือมาตรฐาน ผู้ประเมินได้เพิ่มส่วนประกอบเพิ่มเติมที่แสดงในภาพลงในคำอธิบาย อาหารที่บริโภคทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 14 หมวดหมู่อาหารที่แตกต่างกัน

ซึ่งได้มาจากระบบการจำแนกอาหารที่ออกแบบโดยสมาคมโภชนาการแห่งเยอรมัน (DGE) และตามหมวดหมู่อาหารที่มีอยู่ของฐานข้อมูลสารอาหารของเยอรมัน (Max Rubner Institut) ไม่ได้ประเมินปริมาณของเหลวและวิธีการเตรียมการ ดังนั้นไขมันและส่วนผสมในสูตรเพิ่มเติมจึงไม่รวมอยู่ในการวิเคราะห์เพิ่มเติม เนื่องจากไม่ได้แสดงถึงองค์ประกอบหลักของการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสารเติมแต่งรสเค็มลงในการจัดหมวดหมู่

ไม่มีผู้เข้าร่วมหลุดออกหรือต้องได้รับการยกเว้นเนื่องจากอัตราการขาดหายไปสูง ค่าที่หายไปต่ำกว่า 5% สำหรับตัวแปรทั้งหมด อัตราการปฏิบัติตามในระดับมื้ออาหารไม่สามารถประเมินได้โดยตรง เนื่องจากจำนวนอาหารและของว่างอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล (ระหว่างวัน)

จากการประมาณการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์คร่าวๆ จำนวนอาหารที่คาดหวังจากมุมมอง “เชิงบรรทัดฐาน” ในช่วงแปดวันที่สังเกตสามารถใช้เป็นมาตรฐานเปรียบเทียบได้ (8 x อาหารเช้า, 8 × อาหารกลางวัน, 8 × อาหารค่ำ = 24 มื้อ) โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้เข้าร่วมรายงานอาหารเช้า M = 6.3 มื้อ (SD = 2.3), M = 5.3 อาหารกลางวัน (SD = 1.8) และ M = 6.5 อาหารเย็น (SD = 2.0) เมื่อเปรียบเทียบกับ “กฎเกณฑ์” ที่คาดไว้ 24 มื้อ

ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ดี (ประมาณ 75%) โดยมีแนวโน้มที่จะพลาดมื้ออาหารหกมื้อระหว่างช่วงการศึกษา (ประมาณ 25%) อย่างไรก็ตาม “กฎเกณฑ์” ที่คาดไว้ 24 มื้อสำหรับช่วงการศึกษาอาจสูงเกินไป เนื่องจากผู้เข้าร่วมอาจข้ามมื้ออาหารด้วย (เช่น อาหารเช้า) นอกจากนี้ อัตราความสอดคล้องในปัจจุบันยังเทียบได้กับการศึกษาอื่นๆ ตัวอย่างเช่น Elliston et al.36 บันทึกรายงานอาหาร/อาหารว่าง 3.3 ฉบับต่อวันในกลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ชาวออสเตรเลีย

และ Casperson et al.37 บันทึกรายงานอาหาร 2.2 ฉบับต่อวันในกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่น ในการศึกษานี้ โดยเฉลี่ย M = 3.4 (SD = 1.35) มื้ออาหารหรือของว่างได้รับรายงานต่อวัน ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าโดยรวมแล้วเป็นอัตราที่น่าพอใจ และไม่ได้ระบุการรายงานแบบคัดเลือกสำหรับรายการอาหารบางรายการ

ในการแสดงข้อมูลเป็นภาพกราฟิก มีการใช้ Tableau (เวอร์ชัน 10.1) และสำหรับการวิเคราะห์ทางสถิติเพิ่มเติม IBM SPSS Statistics การวิเคราะห์เหล่านี้นั้นจะสามารถช่วยในเรื่องของการควบคุมการรับประทานอาหารทำให้ผู้บริโภคที่ใช้การคำนวณนี้นั้นมีการรับประทานอาหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การรับประทานอาหารที่ได้ประสิทธิภาพนั้นจะช่วยส่งผลทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับสารอาหารและการรับประทานอาหารที่ดีและถูกต้อง นั่นหมายความว่าเราจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในการวิเคราะห์นั้นอาจจะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างจะยุ่งยากและมีความซับซ้อนและต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์อย่างจริงจังรวมทั้งตัวผู้บริโภคเองนั้นก็จะต้องมีความจริงจังและเข้มงวดด้วย

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังโรงพยาบาลรัฐ

ใช้ความบันเทิงเพื่อพัฒนาไลฟ์สไตล์และสุขภาพ

การปรับปรุงวิถีชีวิตของผู้คนเป็นหนึ่งในความคิดริเริ่มที่สำคัญที่สุดของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ1

อย่างไรก็ตาม 80% ของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง เนื่องจากทรัพยากรในการดำเนินการตามมาตรการการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดี มีจำกัด

แบบสื่อมักจะมีค่าใช้จ่ายสูงและอาจส่งผลเสียต่อวัยรุ่นที่ต่อต้านข้อความ ทางเลือกที่คุ้มค่าที่เป็นไปได้คือการใช้สื่อกีฬาและความบันเทิงเป็นแพลตฟอร์มในการโน้มน้าวผู้คนให้มีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น

ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จของการแทรกแซงวิถีชีวิตมวลชนคือแคมเปญ Quit Smoking with Barca 

ซึ่งโน้มน้าวให้ชาวยุโรปจำนวน 70,000 คนเลิกสูบบุหรี่ ประสิทธิภาพของการเล่าเรื่องเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่สำคัญได้รับการทดสอบด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นภาพยนตร์ที่เผยแพร่ในหมู่บ้านต่างๆ ของแอฟริกาตะวันออกเพื่อปลุกจิตสำนึกเรื่องการตัดอวัยวะเพศหญิงทัศนคติที่ดีขึ้นเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่ยังไม่เจียระไน

เราตั้งสมมติฐานว่าการเล่าเรื่องในซีรีส์ทางโทรทัศน์อาจช่วยเพิ่มความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี เพื่อทดสอบสมมติฐานนี้ เราได้พัฒนาโครงเรื่องย่อยสำหรับ SpangaS ซึ่งเป็นละครโทรทัศน์ประจำวันของเนเธอร์แลนด์ที่มุ่งเป้าไปที่คนหนุ่มสาว เราแนะนำตัวละครที่มีน้ำหนักเกินและไม่แข็งแรงในฤดูกาลที่ 11 เมื่อพ่อของตัวละครตัวนี้มีอาการหัวใจวาย เขาตระหนักถึงอันตรายของวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพและเปลี่ยนนิสัยของเขา ผู้ชมรายการรายวัน 200,000 คนไม่ได้รับคำเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการแทรกแซง

ในการวัดปฏิกิริยาต่อเนื้อเรื่องนี้และความตระหนักของผู้ชม เราใช้วิธีการหาปริมาณแบบใหม่ของโซเชียลมีเดียเพื่อวัดทวีต โพสต์ หรือรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับคำหลักที่กำหนดไว้ล่วงหน้า รวมถึง น้ำหนัก โรคเบาหวาน การออกกำลังกาย ผลไม้ ผัก และวิถีชีวิต ข้อมูลที่คล้ายคลึงกันที่รวบรวมระหว่างฤดูกาลที่สิบของ SpangaS ทำหน้าที่เป็นข้อมูลควบคุม

สำหรับข้อดีของการทำการทดลองในภาษาดัตช์คืออิทธิพลจำกัดอยู่ที่เนเธอร์แลนด์และแฟลนเดอร์ส เบลเยียม ในช่วงฤดูกาลที่ 11 ของ Spangas เราตรวจพบการโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างมากที่เกี่ยวข้องกับคำหลักที่กำหนดไว้ล่วงหน้าทั้งหมดหลังจากตอนที่ตัวละครได้รับแรงบันดาลใจให้เปลี่ยนวิถีชีวิตของเขา ไม่พบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในช่วงฤดูที่สิบ การค้นพบนี้สนับสนุนอิทธิพลของสื่อบันเทิงที่มีต่อไลฟ์สไตล์

เรากำลังพัฒนาภาพยนตร์จากซีซั่นที่ 11 ของ Spangas ซึ่งจะจัดจำหน่ายในโรงเรียน 6,000 แห่งทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ โรงเรียนเหล่านี้จะถูกสุ่มให้ชมภาพยนตร์โดยมีและไม่มีข้อความเกี่ยวกับสุขภาพ ผู้เข้าร่วมทุกคนจะมีส่วนร่วมในการสำรวจวิถีชีวิตก่อนการแทรกแซงและหลังการแทรกแซง

วงการบันเทิงและวงการแพทย์ควรทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงสุขภาพของบุคคล สื่อบันเทิงสามารถใช้เป็นเครื่องมือที่มีต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและช่วยจัดการกับการแพร่ระบาดของโรคไม่ติดต่อโดยเฉพาะใน LMICsด้วย

 

สนับสนุนโดย.    หูตึงรักษา